วันเสาร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2552

โปรแกรม InAlbum3.2

ส่วนที่ 1 โปรแกรม InAlbum 3.2โปรแกรม InAlbum 3.2 เป็นโปรแกรมตกแต่งรูปภาพ ที่มีทั้งตกแต่งเป็นภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่งเพื่อเก็บไว้หรือเพื่อสั่งพิมพ์ไว้ใช้งาน ในส่วนของการตกแต่งภาพ เคลื่อนไหวก็มีการสร้างเครื่องมือในการช่วยสร้างมากมายพร้อมทั้งสามารถแทรกเสียงเพลงที่สามารถเลือกเฉพาะจุดที่ต้องการได้อีกด้วย และยังใช้งานง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อน สามารถเรียนรู้ได้รวดเร็ว
1. เลือกตกแต่งภาพเคลื่อนไหว
2. ตกแต่งภาพนิ่งเพื่อเก็บไว้หรือสั่งพิมพ์
3. เพื่ม ลบ แก้ไข โฟร์เดอร์
4. เลือกโฟล์เดอร์ที่จะเก็บไว้ เพื่อให้เป็นหมวดหมู่
5. เลือก Create New Show เพื่อสร้างชิ้นงานขึ้นมาใหม่



6. ตั้งชื่อของชิ้นงาน
7. เลือกโฟล์เดอร์ที่ต้องการจะเก็บชิ้นงานไว้ให้ตรงตามหมวดหมู่เพื่อความเรียบร้อยและง่ายต่อการใช้งาน
8. เลือก Theme template คือเป็นแบบที่มีลักษณะให้เลือกไว้แล้ว



9. เลือกรูปที่ต้องการในโฟล์เดอร์ที่เก็บไว้ คือเลือกทั้งหมด
10. เลือก add photos




11. เพื่มรูปภาพ
12. เปลี่ยนรูปภาพ
13. ลบรูปภาพ
14.ปรับแต่งภาพ



15. ใส่ข้อความบรรยายภาพ
16. การกำหนดพื้นหลัง



17. เลือกเอฟเฟกต์ที่ต้องการ



18. ยืนยันการเลือกเอฟเฟค
19. หากไม่พบใจ ยกเลิกได้ แล้วเลือกใหม่



20. เลือกรูปแบบ Template ที่ต้องการ


ส่วนที่เกี่ยวข้อง
ส่วนที่ 2 http://donat1417.blogspot.com/

ส่วนที่ 3 http://blog-noopan22.blogspot.com/

ส่วนที่ 4 http://ratchafunny.blogspot.com/

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ธุรกิจกับสื่อมัลติมีเดีย
ปัจจุบัน เด็กไทยสนใจและเข้าถึงสื่อมัลติมีเดีย ซึ่งเป็นภาพเคลื่อนไหวที่สามารถเร้าความสนใจของเด็กได้มากกว่าการอ่านจาก หนังสือ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เด็กไทยส่วนมากไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการเรียนรู้ ดังเห็นได้จากข้อมูลจากสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ (สบทร.) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้สำรวจการเปิดดูเว็บไซต์ประเภทต่างๆ ของประชาชน พบว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ค.2551 เว็บไซต์ประเภทบันเทิงและเกม มีการเปิดใช้มากที่สุด โดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 38 และร้อยละ 14 ตามลำดับ ขณะที่เว็บไซต์ประเภทธุรกิจ ข่าว บุคคล-สังคม คอมพิวเตอร์ หน่วยงานราชการ และการศึกษา เปิดใช้ไม่ถึงร้อยละ 10 ซึ่งมีลักษณะเดียวกับปีที่ผ่านมา

ธุรกิจกับสื่อมัลติมีเดีย
ธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า E-Commerce อันจะช่วยให้การนำเสนอสินค้า มีความน่าสนใจมากกว่าเดิม
การสื่อสารโทรคมนาคม เนื่องด้วยเทคโนโลยีมัลติมีเดียต้องอาศัยสื่อเพื่อเผยแพร่ข้อมูล ดังนั้นเทคโนโลยีนี้ จึงมีความสัมพันธ์กับระบบการสื่อสารโทรคมนาคม อย่างแยกกันได้ยากมาก
ธุรกิจการพิมพ์ นับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สัมพันธ์กับเทคโนโลยีมัลติมีเดีย อันจะส่งผลให้หนังสือ สิ่งพิมพ์ต่างๆ มีความน่าสนใจมากขึ้น และปัจจุบันก็มี E-Magazine หรือ E-Book ออกมาอย่างแพร่หลาย
ธุรกิจการให้บริการข้อมูลข่าวสาร เมื่อมีการนำเทคโนโลยีมัลติมีเดียมาช่วย จะทำให้ข้อมูลข่าวสารที่เผยแพร่ออกไป มีความน่าสนใจมากกว่าเดิม
ธุรกิจโฆษณา และการตลาด แน่นอนว่ามีความสัมพันธ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อันจะช่วยดึงดูดคนเข้ามาชม ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีความแปลกใหม่

องค์ประกอบของมัลติมีเดีย ได้แก่
- ข้อความ คือ เป็นส่วนที่เกี่ยวกับเนื้อหาของมัลติมีเดีย ใช้แสดงรายละเอียดหรือเนื้อหาของเรื่องที่นำเสนอ
- ภาพกราฟฟิก คือ สื่อในการนำเสนอที่ดี เพราะมีสีสัน รูปแบบน่าสนใจ สื่อความหมายได้กว้างกว่าข้อความ
- เสียง คือ สิ่งที่ทำให้เกิดบรรยากาศที่น่าสนใจโดยการรับรู้ทางหู อาจจะเป็นเสียงพูด เสียงภาพ เพลงบรรเลง เป็นต้น
- วีดีโอ เป็นสื่อที่นิยมเป็นอย่างาก เนื่องจากนำเสนอได้ทั้งภาพเคลื่อนไหวและเสียงไปพร้อม ๆ กันทำให้เกิดความน่าสนใจในการนำเสนอ

ประโยชน์ของมัลติมีเดีย
มัลติมีเดียเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในวงการธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะได้นำมาใช้ในการฝึกอบรมและให้ความบันเทิง ส่วนในวงการศึกษามัลติมีเดียได้นำมาใช้เพื่อการเรียนและการสอนในลักษณะแผ่นซีดีรอม หรืออาจใช้ในลักษณะห้องปฏิบัติการมัลติมีเดียโดยเฉพาะก็ได้ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า มัลติมีเดียจะกลายมาเป็นเครื่องมือที่สำคัญทางการศึกษาในอนาคต ทั้งนี้เพราะว่ามัลติมีเดียสามารถที่จะนำเสนอได้ทั้งเสียง ข้อความ ภาพเคลื่อนไหว ดนตรี กราฟิก วัสดุตีพิมพ์ ภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ ประกอบกับสามารถที่จะจำลองภาพของการเรียนและการสอนที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองแบบเชิงรุก
มัลติมีเดีย ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนเรามากยิ่งขึ้น โดยมีประโยชน์ ดังนี้
• เสนอสิ่งเร้าให้กับผู้เรียน ได้แก่ เนื้อหา ภาพนิ่ง คำถาม ภาพเคลื่อนไหว
• นำเสนอข่าวสารในรูปแบบที่ไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับ เช่น บทเรียนมัลติมีเดีย
• สร้างสื่อเพื่อความบันเทิง

ที่มา http://learners.in.th/blog/sai-nungning/166272
http://www.thaiedunet.com/cet/html/multimedia/multi_lesson/index9.html